ร่วมให้ความรู้ด้านการติดตามสภาพอากาศกับภาคประชาชน
รายละเอียดโครงการ
วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม 2567 ณ ห้องประชุมโรงเเรมมณีจันท์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุทธินันท์ โสตวิถี ผู้อำนวยการสำนักบริการวิชาการ พร้อมด้วยบุคลากรของมหาวิทยาลัย เข้าร่วมโครงการประชุม”สถานการณ์ภาวะเสี่ยงหรือความสูญเสีย และความเสียหายของระบบเศรษฐกิจสังคมในพื้นที่ชายฝั่ง จากผลสืบเนื่องของสภาพอากาศ/ภูมิอากาศ” โดยมีนายธีรพงษ์ เหล่าพงศ์พิชญ์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิเคราะห์ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน และมี ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา หัวหน้าทีมวิจัยโครงการฯ และทีมวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินกิจกรรมการขอความคิดเห็นสถานการณ์ต่าง ๆ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในพื้นที่ชายฝั่งจังหวัดจันทบุรี และตราด ที่ส่งผลกระทบต่อการประมง การเพาะเลี้ยง การย้ายถิ่นฐาน การเพาะปลูก การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมชุมชน โดยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมอภิปรายและเเสดงความคิดเห็นจากหลายภาคส่วน ผลจากการประชุมดังกล่าวจะนำไปใช้เพื่อจัดทำแผนและมาตรการเกี่ยวกับการปรับต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เชิงพื้นที่ของประเทศไทยต่อไป
ผลการดำเนินโครงการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครอุตุนิยมวิทยาจังหวัดจันทบุรี ปี 2568
โครงการนี้มุ่งสร้างเครือข่ายอาสาสมัครในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีให้มีความรู้ด้านอุตุนิยมวิทยา เพื่อให้สามารถรับมือกับภัยธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยสรุปผลการดำเนินงานได้ดังนี้
การฝึกอบรม
จัดอบรมทั้งหมด 3 รุ่น ในวันที่ 8, 15 และ 22 พฤษภาคม 2568
มีผู้เข้าร่วมโครงการรวม 300 คน (รุ่นละ 100 คน)
วัตถุประสงค์และผลที่คาดว่าจะได้รับ
สร้างเครือข่ายที่มีความรู้: โครงการนี้ช่วยให้ประชาชนในท้องถิ่นมีความรู้ความเข้าใจเรื่องอุตุนิยมวิทยามากขึ้น
เพิ่มประสิทธิภาพการแจ้งเตือนภัย: อาสาสมัครที่ผ่านการอบรมสามารถติดตามและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อช่วยแจ้งเตือนภัยธรรมชาติในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำขึ้น
ลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ: การแจ้งเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพจะช่วยลดความเสียหายและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่
สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน: ข้อมูลที่ได้จากเครือข่ายอาสาสมัครสามารถนำไปใช้ในการวางแผนและพัฒนาเศรษฐกิจในระดับชุมชน เช่น ภาคการเกษตร
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น จังหวัดจันทบุรี สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี และสำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือจากหลายฝ่ายในการพัฒนาความเข้มแข็งของชุมชนอย่างยั่งยืน
