มหาวิทยาลัยมีการให้บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพของดินและปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ธาตุอาหารของพืช ปริมาณสารอินทรีย์ และค่าความเป็นกรดเบส (pH) ข้อมูลนี้ทำให้เกษตรกรสามารถปรับปรุง และใช้ประโยชน์จากที่ดินและปุ๋ยของตนเองอย่างยั่งยืน โดยมีผู้รับบริการในปี 2567 รวม 62 ราย เป็นเกษตรกรและผู้ประกอบการจากทั่วประเทศ และมีโครงการปลูกปอเทืองเพื่อปรับปรุงคุณภาพดิน ณ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ทำให้นักศึกษาได้ใช้ประโยชน์จากดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ และได้เรียนรู้การบำรุงดินโดยใช้ปุ๋ยสดอีกด้วย นอกจากนี้มหาวิทยาลัยมีการอนุรักษ์พื้นที่ป่าจำนวน 50 ไร่ ให้เป็นพื้นที่ปกปักทรัพยากร ไว้ในมหาวิทยาลัย เพื่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพของทรัพยากรในระบบนิเวศป่าไม้ มีการสำรวจทรัพยากรทั้งไม้มีค่า สัตว์ป่าคุ้มครอง และภูมิปัญญาการใช้สมุนไพรท้องถิ่น รวมทั้งจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จำนวน 3 เส้นทาง ได้เเก่ เส้นทางป่าพรุ ป่าบก และเส้นทางน้ำ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ ประโยชน์และคุณค่าของป่าไม้ ผ่านกิจกรรมการสร้างจิตสำนึกให้กับเยาวชน และประชาชนโดยทั่วไป มีการวางแผนพื้นที่จำนวน 12.5 ไร่ เพื่อเป็นพื้นที่ปลูกอนุรักษ์พืชท้องถิ่น พืชหายาก รวมทั้งมหาวิทยาลัยยังให้ความสำคัญกับการจัดการปัญหาช้างป่า โดยการสนับสนุนโครงการระบบเฝ้าระวังและเตือนภัยช้างป่า ด้วยรั้วไร้สายและเซนเซอร์แบบบูรณาการ ซึ่งเป็นการลดความเสียหายจากผลผลิตทางการเกษตร ทรัพย์สิน และชีวิตของชุมชนจังหวัดจันทบุรีที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาช้างป่า โดยมหาวิทยาลัยร่วมวางแผนและดำเนินการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กรมอุทยานสัตว์ป่า และพันธุ์พืช สำนักงานการเกษตรจังหวัดจันทบุรี สำนักงานนโยบายและเเผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และกรมป่าไม้
The university provided soil and organic fertilizer quality analysis services to farmers and entrepreneurs, benefiting 62 clients in 2024. The data enabled users to improve land and fertilizer use sustainably. A Sunn hemp cultivation project at the Sufficiency Economy Learning Center helped students learn soil enrichment through green manure. The university conserved 50 rai of forest as a biodiversity protection area, surveying valuable trees, wildlife, and nature trails for youth education. Additionally, 12.5 rai of degraded land were restored for native-plant conservation, and a wireless-fence system was implemented in collaboration with government, private, and community sectors to mitigate human–elephant conflicts and protect local livelihoods.